เลือก วีลแชร์ไฟฟ้า ยังไงให้ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน
17/09/2024การเลือก วีลแชร์ไฟฟ้า ดี ๆ สักคันเปรียบเหมือนการเลือกเพื่อนคู่ใจเลยนะ! มันไม่ใช่แค่เรื่องของการเคลื่อนที่ไปมา แต่เป็นการเลือกสิ่งที่จะอยู่กับเราไปนาน ๆ เลือกยังไงดีให้ถูกใจ? ง่ายนิดเดียว! บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องที่ควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแบตเตอรี่ที่ทนทานแค่ไหน หรือฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตคุณสะดวกสบายมากขึ้น แถมยังมีคำแนะนำดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณเลือกวีลแชร์ที่ใช่ที่สุดสำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณอีกด้วย
วีลแชร์ไฟฟ้าเนี่ยมันไม่ธรรมดาเลยนะ! มันคือพาหนะส่วนตัวที่ออกแบบมา เพื่อให้คุณเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน หรือจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม วีลแชร์ไฟฟ้าขนาดเล็กและวีลแชร์แต่ละรุ่น ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป บางรุ่นเหมาะกับการใช้งานในบ้าน บางรุ่นก็ออกแบบมาสำหรับลุยไปได้ทุกที่ แถมยังมีฟังก์ชั่นเสริมอีกเพียบ เช่นที่วางเท้าปรับระดับได้ หรือเบาะนั่งที่นุ่มสบาย ช่วยให้คุณนั่งได้นาน ๆ โดยไม่เมื่อยล้า
การเลือกวีลแชร์ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าเรารู้ว่าตัวเองว่าต้องการอะไรบ้าง ลองคิดดูสิว่าคุณใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร ชอบออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านบ่อยแค่ไหน หรือต้องการวีลแชร์ที่พับเก็บได้ง่าย เพื่อสะดวกในการพกพา? เมื่อรู้คำตอบแล้ว คุณก็จะสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการของคุณได้มากที่สุด และที่สำคัญอย่าลืมดูเรื่องขนาดและน้ำหนักของวีลแชร์ด้วยนะ เพราะจะส่งผลต่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับวีลแชร์ไฟฟ้า ตั้งแต่การเลือกวัสดุที่ใช้ทำวีลแชร์ ระบบกันสะเทือนที่ช่วยให้การเดินทางนุ่มนวล ไปจนถึงวิธีการดูแลรักษาวีลแชร์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เราจะมาไขข้อข้องใจให้คุณทุกคำถาม เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าการตัดสินใจเลือกซื้อวีลแชร์ไฟฟ้าครั้งนี้ของคุณ จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
วิธีเลือก วีลแชร์ไฟฟ้า ให้ใช่ เพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้น
เลือกรถวีลแชร์ไฟฟ้าแต่ละคัน มันไม่ใช่แค่การซื้อเก้าอี้ธรรมดา ๆ นะคะ เพราะมันจะกลายเป็นเพื่อนคู่ใจที่ไปไหนมาไหนกับเราทุกที่ โดยเฉพาะเลือกยังไงให้ถูกใจ? ก่อนอื่นเลย เราต้องมาดูกันก่อนว่าเราจะใช้วีลแชร์ทำอะไรบ้าง จะเอาไว้ใช้ในบ้าน หรือว่าจะเอาไปลุยข้างนอกด้วย? แต่ละแบบก็จะมีฟังก์ชั่นที่ต่างกันไป
ถ้าเราจะใช้วีลแชร์แค่ในบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องเอาแบบที่ใหญ่โตอลังการมากนัก วีลแชร์ขนาดกะทัดรัด พับเก็บง่าย ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเราชอบออกไปเที่ยวข้างนอกบ่อย ๆ ก็ต้องเลือกแบบที่แข็งแรง ทนทานหน่อยนะ เพื่อให้เราสามารถลุยไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นทางขรุขระ หรือทางลาดชัน
ความถี่ในการใช้งานก็ยังเป็นเหตุผลที่สำคัญ
นอกจากจะดูว่าเราจะใช้วีลแชร์ที่ไหนแล้ว เรายังต้องดูด้วยว่าเราจะใช้วีลแชร์บ่อยแค่ไหน ถ้าใช้แค่เป็นครั้งคราว ก็ไม่จำเป็นต้องเอาแบบที่แพงมาก แต่ถ้าเราต้องใช้วีลแชร์ทุกวัน ก็ควรเลือกแบบที่นั่งสบาย มีฟังก์ชั่นครบครัน เพื่อที่จะได้ไม่ปวดเมื่อยตอนนั่งนาน ๆ เราต้องมาดูเรื่องความสามารถทางกายภาพของตัวเองด้วย ว่าเราแข็งแรงแค่ไหน
ถ้าเราเคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก ก็ควรเลือกวีลแชร์ที่มีจอยสติ๊กที่ใช้งานง่าย หรือมีฟังก์ชั่นช่วยในการควบคุมเพิ่มเติม เพื่อให้เราสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และที่สำคัญที่สุดคือ วีลแชร์ต้องทำให้เรารู้สึกสบายตัว ไม่ว่าจะนั่งนานแค่ไหนก็ตาม
เพิ่มอิสระในการเคลื่อนไหว ด้วยวีลแชร์ไฟฟ้าที่ใช่
เลือกรถวีลแชร์ไฟฟ้าความจริงก็มีให้เลือกเยอะแยะไปหมด แต่ไม่ต้องกังวลไป! สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องรู้ก่อนว่าตัวเราต้องการอะไรบ้าง จะเอาไว้ใช้ออกกำลังกาย หรือจะเอาไว้ไปเที่ยวก็ตาม แต่ละแบบก็จะมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น แบตเตอรี่จะต้องทนขนาดไหน วิ่งได้เร็วแค่ไหน หรือจะต้องนั่งสบายแค่ไหน เรามาลองดูรายละเอียดกันเลยดีกว่า
เรื่องแบตเตอรี่นี่สำคัญมากเลยนะ ถ้าเราชอบออกไปข้างนอกบ่อย ๆ ก็ต้องเลือกแบบที่แบตอึด ๆ หน่อย จะได้ไม่ต้องมานั่งหาที่ชาร์จบ่อย ๆ แต่ถ้าใช้แค่ในบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องเอาแบบแบตจุเยอะมากก็ได้นะ ปัจจุบันนี้มีแบตเตอรี่หลายแบบให้เลือก ทั้งแบบลิเธียมไอออนที่เบาแต่ราคาสูง และแบบตะกั่วกรดที่หนักแต่ราคาถูกกว่า เลือกให้เหมาะกับการใช้งานของเราเลย
นอกจากเรื่องแบตเตอรี่แล้ว เรื่องความเร็วก็สำคัญไม่แพ้กันนะ บางคนอาจจะชอบแบบที่วิ่งเร็ว ๆ แต่บางคนอาจจะชอบแบบที่ขับขี่ได้นุ่มนวลกว่า ถ้าเราชอบออกไปข้างนอกบ่อย ๆ ก็ควรเลือกแบบที่วิ่งได้เร็วและคล่องตัว แต่ถ้าเราใช้แค่ในบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องเอาแบบที่เร็วมากก็ได้นะ เพราะอาจจะอันตรายได้
เรื่องน้ำหนักและขนาดของวีลแชร์ มีความสำคัญไม่แพ้กันเพราะต้องคำนึงถึงการขนย้ายวีลแชร์บ่อย ๆ ก็ควรเลือกแบบที่น้ำหนักเบา พับเก็บได้ง่าย แต่ถ้าเราต้องการความแข็งแรงทนทาน ก็ต้องเลือกแบบที่ตัวใหญ่หน่อย อาจจะหนักหน่อย แต่ก็คุ้มค่ากับการใช้งานแน่นอน
ความแข็งแรงทนทานก็คือความสำคัญที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ
วีลแชร์ไฟฟ้า ขึ้นเครื่องบินอาจจะต้องคิดมากเป็นพิเศษเพราะนอกจากเรื่องความแข็งแรงทนทานแล้ว เรื่องความสบายก็สำคัญไม่แพ้กันนะ เพราะเราต้องนั่งบนวีลแชร์เป็นเวลานาน การเลือกวีลแชร์ที่นั่งสบาย จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น ลองสังเกตดูว่าวีลแชร์รุ่นนั้น ๆ มีเบาะนั่งปรับได้ไหม พนักพิงปรับเอนได้ไหม หรือว่ามีที่วางเท้าให้ปรับระดับได้มั้ย ถ้ามีฟังก์ชั่นเหล่านี้ก็จะช่วยให้เรานั่งวีลแชร์ได้สบายขึ้นเยอะเลย
นอกจากเรื่องความสบายแล้ว เรื่องความปลอดภัยก็สำคัญมากเช่นกัน เวลาเลือกซื้อวีลแชร์ เราต้องดูว่ามีระบบความปลอดภัยอะไรบ้าง อย่างเช่นล้อมีระบบป้องกันการพลิกคว่ำไหม มีเข็มขัดนิรภัยไหม หรือมีไฟส่องสว่างเวลาขับขี่ตอนกลางคืนไหม ฟังก์ชั่นเหล่านี้จะช่วยให้เราใช้วีลแชร์ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ชอบออกไปข้างนอกบ่อย ๆ
การเลือกวีลแชร์ที่เหมาะสมกับตัวเรา มันเหมือนกับการเลือกเสื้อผ้าเลยนะ ต้องเลือกให้พอดีตัว และสบายตัวที่สุด ถ้าเราเลือกวีลแชร์ที่ใหญ่เกินไปหรือ วีลแชร์ไฟฟ้าขนาดเล็กเกินไป ก็จะทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัว และอาจจะเกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ในภายหลัง ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ เราควรลองนั่งดูหลาย ๆ รุ่น เพื่อหาแบบที่ถูกใจและเหมาะกับร่างกายของเรามากที่สุด
การเลือกวีลแชร์ไฟฟ้าที่ดีสักคัน มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเราใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่เรื่องความสบาย ความปลอดภัย ไปจนถึงเรื่องขนาดและน้ำหนัก เราจะสามารถเลือกวีลแชร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญที่สุดคือ วีลแชร์จะต้องทำให้เรารู้สึกมั่นใจและมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น
รถวีลแชร์ไฟฟ้า: แบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด?
ถ้าจะต้องเลือกวีลแชร์ไฟฟ้าสักคัน มันก็เหมือนเลือกซื้อรถนั่นแหละ มีหลายรุ่น หลายยี่ห้อให้เลือกมากมาย วันนี้เราจะมาพูดถึงวีลแชร์ไฟฟ้า 2 แบบหลัก ๆ ที่คนนิยมใช้กันนะ คือแบบพกพาและแบบขนาดใหญ่ แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป ลองมาดูกันว่าแบบไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด
ถ้าใครชอบเดินทางบ่อย ๆ วีลแชร์ไฟฟ้าแบบพกพาคือตัวเลือกที่ดีเลย เพราะมันพับเก็บได้ง่าย น้ำหนักเบา พกพาสะดวก เหมาะกับการเดินทางด้วยรถยนต์หรือเครื่องบิน แต่ข้อเสียของมันก็คืออาจจะไม่นั่งสบายเท่าแบบขนาดใหญ่ และแบตเตอรี่อาจจะไม่ทนมากนัก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการวีลแชร์ไว้ใช้เป็นครั้งคราวมากกว่า
สำหรับคนที่ต้องการวีลแชร์ไว้ใช้งานประจำวัน วีลแชร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่จะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า เพราะมันมีขนาดใหญ่ นั่งสบาย มีฟังก์ชั่นครบครัน ทั้งเบาะนั่งปรับได้ พนักพิงปรับเอนได้ และแบตเตอรี่ก็ทนทาน สามารถใช้งานได้นานหลายชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่ข้อเสียของมันก็คือขนาดใหญ่ ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่าแบบพกพา
การเลือกวีลแชร์ไฟฟ้าขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละคน ถ้าเราชอบเดินทางบ่อย ๆ ก็เลือกแบบพกพา แต่ถ้าต้องการความสะดวกสบายและใช้งานได้นาน ๆ ก็เลือกแบบขนาดใหญ่ สิ่งสำคัญคือเราต้องลองนั่งและทดลองขับดูหลาย ๆ รุ่น เพื่อหาแบบที่ถูกใจและเหมาะกับตัวเรามากที่สุด
ถ้าคุณต้องการ รถเข็นไฟฟ้าที่แข็งแรง ทนทาน และรับน้ำหนักได้เยอะ วีลแชร์ไฟฟ้าแบบใช้งานหนักนี่แหละตอบโจทย์! มันออกแบบมาสำหรับคนที่ตัวหนัก หรือต้องการลุยไปในที่ที่ขรุขระ เช่น สวนสาธารณะ หรือพื้นที่ก่อสร้าง วีลแชร์แบบนี้จะมีโครงสร้างที่แข็งแรง มอเตอร์แรง และล้อใหญ่ ทำให้เคลื่อนที่ได้อย่างมั่นคง แม้จะเจอพื้นผิวที่ไม่เรียบก็ตาม
อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจคือ วีลแชร์ไฟฟ้าแบบยืน! วีลแชร์แบบนี้เจ๋งตรงที่มันสามารถปรับเปลี่ยนจากท่านั่งเป็นท่ายืนได้ ทำให้เราสามารถยืนขึ้นมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เช่น ยืนคุยกับเพื่อน ยืนมองวิว หรือแม้แต่ยืนทำอาหารเองได้เลย แต่ข้อเสียของมันก็คือราคาค่อนข้างสูง และน้ำหนักก็เยอะกว่าแบบปกติ เพราะมีกลไกในการยกตัวขึ้นมา
การเลือกวีลแชร์ไฟฟ้าแต่ละแบบก็เหมือนกับการเลือกซื้อรถยนต์นั่นแหละ เราต้องเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของเรา ถ้าเราต้องการวีลแชร์ไว้ใช้ในบ้าน ก็อาจจะเลือกแบบขนาดกลาง ๆ แต่ถ้าเราชอบออกไปเที่ยวข้างนอกบ่อย ๆ ก็ควรเลือกแบบที่แข็งแรง ทนทาน และมีฟังก์ชั่นครบครัน
วีลแชร์ไฟฟ้ามีหลายแบบให้เลือก แต่ละแบบก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป สิ่งสำคัญคือเราต้องเลือกให้เหมาะกับความต้องการของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำหนัก ความแข็งแรง ฟังก์ชั่น หรือแม้แต่ราคา เมื่อเราเลือกได้แล้ว วีลแชร์ก็จะกลายเป็นเพื่อนคู่ใจที่ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
เพิ่มความคล่องตัวในการใช้ชีวิต ด้วยวีลแชร์ไฟฟ้าที่เหมาะสม
รถเข็นไฟฟ้านอกจากเรื่องฟังก์ชั่นต่าง ๆ แล้ว เรื่องสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ก็สำคัญมากนะ เพราะวีลแชร์แต่ละแบบก็เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป ถ้าเราอยู่คอนโดก็อาจจะเลือกแบบเล็ก ๆ พับเก็บได้ง่าย แต่ถ้าเราชอบออกไปเที่ยวป่าเขา ก็อาจจะเลือกแบบที่แข็งแรงทนทาน ลองมาดูกันว่าวีลแชร์แบบไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราบ้าง
ถ้าเราอยู่คอนโดหรือบ้านในเมือง วีลแชร์แบบเล็ก ๆ พับเก็บได้ก็ตอบโจทย์สุด ๆ เพราะมันจะช่วยให้เราเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้สะดวกในพื้นที่แคบ ๆ แต่ถ้าเราอยู่บ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่เยอะ หรือชอบไปเที่ยวป่าเขา วีลแชร์แบบใหญ่ที่แข็งแรงทนทานก็จะเหมาะกับเรามากกว่า เพราะมันจะช่วยให้เราลุยไปได้ในทุกสภาพพื้นผิว
นอกจากเรื่องขนาดของบ้านแล้ว เราก็ต้องดูว่าเราจะเอาวีลแชร์ไปใช้ที่ไหนบ้าง ถ้าเราชอบเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ ก็ควรเลือกแบบที่พับเก็บได้ง่าย น้ำหนักเบา เพื่อสะดวกในการขนส่ง แต่ถ้าเราใช้วีลแชร์อยู่ในบ้านเป็นหลัก ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องเน้นเรื่องพกพาเท่าไหร่
การเลือกวีลแชร์ไฟฟ้าให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ก่อนตัดสินใจซื้อ เราควรพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ขนาดของบ้าน พื้นที่ที่เราจะไปบ่อย ๆ และความถี่ในการเดินทาง เมื่อเราเลือกได้แล้ว วีลแชร์ก็จะกลายเป็นเพื่อนคู่ใจที่ช่วยให้เราไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ
คำนวณงบประมาณ ก่อนตัดสินใจซื้อวีลแชร์
จะซื้อวีลแชร์ไฟฟ้าสักคัน มันก็เหมือนซื้อรถยนต์นั่นแหละ เราต้องเลือกให้เหมาะกับงบประมาณและความต้องการของเรา บางคนอาจจะเน้นฟังก์ชั่นเยอะ ๆ แต่บางคนอาจจะเน้นราคาถูก ๆ สิ่งสำคัญคือเราต้องหาจุดกึ่งกลางที่ลงตัวที่สุด โดยไม่ต้องไปกังวลว่าจะซื้อรุ่นแพงเกินไปจนเป็นภาระ
วีลแชร์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นก็จะมีราคาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นและวัสดุที่ใช้ ถ้าเป็นรุ่นพื้นฐานก็อาจจะราคาไม่แพงมาก แต่ถ้าเป็นรุ่นที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ฟังก์ชั่นครบครัน ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ให้บริการผ่อนชำระ ทำให้เราสามารถแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ ได้สบายขึ้น
การเลือกซื้อวีลแชร์ไฟฟ้า ไม่ใช่แค่การซื้อของใช้ชิ้นหนึ่ง แต่เป็นการลงทุนระยะยาว เพราะเราจะต้องใช้มันทุกวัน การเลือกซื้อรุ่นที่มีคุณภาพดี อาจจะต้องลงทุนมากกว่าในตอนแรก แต่จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เพราะไม่ต้องเสียค่าซ่อมบำรุงบ่อย ๆ และยังสามารถใช้งานได้นานขึ้นอีกด้วย
นอกจากการผ่อนชำระแล้ว ยังมีช่องทางอื่น ๆ ที่จะช่วยให้เราซื้อวีลแชร์ได้ง่ายขึ้น เช่น การขอความช่วยเหลือจากทางรัฐบาล หรือจากองค์กรที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการ บางแห่งอาจจะมีโครงการสนับสนุนให้ผู้ที่มีความจำเป็นในการใช้วีลแชร์ ได้รับส่วนลด หรือเงินช่วยเหลือในการซื้อ ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ เราควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องทางเหล่านี้ เพื่อให้ได้วีลแชร์ที่เหมาะสมกับงบประมาณของเรามากที่สุด
ค้นหาสไตล์ของคุณ กับบริการปรับแต่งในการเลือกใช้วีลแชร์
ก่อนตัดสินใจซื้อรถเข็นไฟฟ้า สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องได้ลองขับดูเอง เพราะมันเหมือนกับการซื้อรถยนต์นั่นแหละ เราต้องลองนั่งดูว่าสบายไหม ควบคุมง่ายมั้ย หรือว่ามันเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราหรือเปล่า การลองขับจะช่วยให้เราได้รู้ว่าวีลแชร์รุ่นไหนถึงจะตอบโจทย์ความต้องการของเราได้มากที่สุด
เวลาลองขับวีลแชร์ เราต้องสังเกตหลาย ๆ อย่างเลยนะ เช่น เวลาเลี้ยวมันคล่องตัวมั้ย เบรกทำงานดีแค่ไหน หรือเบาะนั่งมันนุ่มสบายพอหรือเปล่า ถ้าเราชอบไปไหนมาไหนในที่แคบ ๆ ก็ต้องลองขับดูว่าวีลแชร์สามารถเลี้ยวได้แคบแค่ไหน แต่ถ้าเราชอบไปเที่ยวป่าเขา ก็ต้องลองขับบนพื้นผิวที่ขรุขระดูว่ามันแข็งแรงทนทานแค่ไหน
นอกจากการลองขับแล้ว เรายังสามารถปรับแต่งวีลแชร์ให้เข้ากับตัวเราได้อีกด้วย เพราะคนเราไม่ได้มีรูปร่างเหมือนกันทุกคน ดังนั้นวีลแชร์ก็ต้องปรับให้เข้ากับรูปร่างของเราด้วย เช่น การปรับเบาะนั่งให้สูงต่ำได้ การปรับที่วางแขนให้เข้ากับความยาวของแขน หรือการปรับตำแหน่งของจอยสติ๊กให้จับถนัดมือ การปรับแต่งเหล่านี้จะช่วยให้เราใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
การเลือกซื้อรถเข็นผู้ป่วยไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเราได้ลองขับและปรับแต่งให้เหมาะกับตัวเองแล้ว เราจะมั่นใจได้ว่าวีลแชร์คันนี้จะอยู่กับเราไปนาน ๆ และช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างอิสระมากขึ้น
หาซื้อ วีลแชร์ไฟฟ้า ที่ไหนดี ในไทย?
จะซื้อวีลแชร์ไฟฟ้าสักคันถ้าไม่ใช่วีลแชร์ไฟฟ้า ทําเอง ก็ต้องเลือกที่ยี่ห้อ รุ่น แล้ว เราก็ต้องเลือกซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้ด้วยนะ เพราะร้านที่ดีเค้าจะมีบริการหลังการขายที่ดี ดูแลเราได้ยาวนาน ไม่ใช่แค่ขายแล้วจบไปเลย การเลือกซื้อจากร้านที่ไว้ใจได้ จะทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะได้วีลแชร์ที่มีคุณภาพดี และใช้งานได้ยาวนาน
ในประเทศไทยก็มีร้านขายวีลแชร์ไฟฟ้าหลายร้านเลยนะ แต่ร้านที่คนนิยมไปซื้อกันบ่อย ๆ ก็จะมี Siam Mobility Solutions, Medthailand, หรือ WeCare Medical Supplies ร้านเหล่านี้เค้าจะมีพนักงานที่คอยให้คำแนะนำเราในการเลือกซื้อวีลแชร์ที่เหมาะกับเรา และบางร้านก็มีบริการให้เราลองนั่งวีลแชร์ก่อนตัดสินใจซื้อด้วยนะ
นอกจากร้านค้าทั่วไปแล้ว เราก็สามารถซื้อวีลแชร์ไฟฟ้าได้จากช่องทางออนไลน์ อย่างเช่น Lazada หรือ Shopee แต่ก่อนจะซื้อเราต้องเช็คให้ดีก่อนนะว่าร้านค้าที่เราจะซื้อจากเค้ามีความน่าเชื่อถือแค่ไหน มีรีวิวจากลูกค้าคนอื่น ๆ บ้างไหม และร้านค้านั้นมีบริการหลังการขายหรือไม่ เพราะถ้าเกิดวีลแชร์มีปัญหาขึ้นมา เราจะได้มีที่พึ่ง
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เราไม่ควรลืมก็คือ บริการหลังการขาย เพราะวีลแชร์ไฟฟ้าก็เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่อาจจะต้องมีการซ่อมบำรุงบ้าง ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ เราควรสอบถามร้านค้าเกี่ยวกับบริการหลังการขายด้วยว่ามีการรับประกันนานแค่ไหน มีช่างเทคนิคคอยซ่อมบำรุงให้หรือเปล่า และถ้าเกิดมีปัญหาเราจะติดต่อได้ช่องทางไหนบ้าง
สรุปเคล็ดลับเลือกซื้อ วีลแชร์ไฟฟ้า ให้ถูกใจ
การเลือกซื้อวีลแชร์ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะคะเพราะมันจะกลายเป็นเพื่อนคู่กายที่ไปไหนมาไหนกับเราทุกที่ เราต้องเลือกให้ดี เลือกให้ถูกใจ เพื่อที่เราจะได้ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น การเลือกวีลแชร์ที่ดี จะช่วยให้เราทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้น และมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นด้วยค่ะ
ก่อนตัดสินใจซื้อ เราต้องดูหลาย ๆ อย่างเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นขนาดของวีลแชร์ น้ำหนักที่รับได้ ระยะทางที่วิ่งได้ หรือแม้แต่ฟังก์ชั่นพิเศษต่าง ๆ เช่น การปรับเอน การพับเก็บ หรือการควบคุมด้วยเสียง ถ้าเราชอบเดินทางบ่อยๆ ก็ควรเลือกวีลแชร์ไฟฟ้าแบบพับได้ง่าย ๆ หรือถ้าเราต้องการความแข็งแรงทนทาน ก็ควรเลือกวีลแชร์ที่ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพดี
นอกจากสเปคของตัววีลแชร์แล้ว เรายังต้องดูเรื่องบริการหลังการขายด้วยนะคะ เพราะว่าวีลแชร์ก็เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่อาจจะต้องมีการซ่อมบำรุงบ้าง การเลือกร้านค้าที่น่าเชื่อถือ มีบริการหลังการขายที่ดี จะทำให้เรามั่นใจได้ว่าถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา เราจะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
อยากให้ทุกคนใช้เวลาในการเลือกซื้อ วีลแชร์ไฟฟ้า ให้ดีนะคะเพราะนี่คือการลงทุนที่คุ้มค่ากับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของเราเอง ลองไปทดลองใช้งานวีลแชร์ไฟฟ้าราคาถูก หรือวีลแชร์หลาย ๆ รุ่น เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย แล้วค่อยตัดสินใจเลือกซื้อ เพราะวีลแชร์ที่ดี จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและมีความสุขมากขึ้นค่ะ