รีวิว Herman Miller เก้าอี้ทำงาน Herman Miller Arron & Herman miller Embody ซื้อตัวไหนดี

รีวิว Herman Miller เก้าอี้ทำงาน Herman Miller Arron & Herman miller Embody

รีวิว Herman Miller เก้าอี้ทำงาน Herman Miller Arron & Herman miller Embody หลายๆคนคงเลือกไม่ถูก ว่าจะซื้อตัวไหนดี ดูตอนแรกๆ herman miller ซื้อที่ไหน  ก็เลือกไม่ถูกเหมือนกัน ข้อดีข้อเสีย ความแตกต่างของ 2 ตัวนี้ ก่อนอื่นขอเริ่มกันที่ เรื่องของดีไซน์ ของตัวเก้าอี้กันก่อน เริ่มจากแอรอน ถือว่าเป็นเก้าอี้ที่ล้ำมาก

ณ วันที่มันเกิดมา เกิดมาในปี 1994 ประมาณ 20 กว่าปีมาแล้ว แล้วลองนึกดู เก้าอี้ทำงานเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว หน้าตาแบบนี้ ถือว่าพิเศษมาก และดีไซน์ตัวนี้ เลยเป็นดีไซน์ที่ไอคอนนิค เป็นต้นแบบให้  Herman Miller Thailand เก้าอี้ทำงาน ในยุคถัดๆมา สิ่งที่ชอบคือ รูปทรงของมัน รูปทรงดูสวยมาก

แค่วางไว้เฉยๆก็สวยแล้ว ตรงพนักด้านหลัง ที่มีความโค้งนิดนึง เหมือนปีกที่ยื่น ออกมาด้านข้าง แล้วคอดไปตรงช่วงเอว มันดูเท่ดี ก็เลยไม่แปลกใจ ว่าทำไมคนถึงชอบ  ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เก้าอี้ตัวนี้มาก ซึ่งแอรอนจะมีให้เลือกแค่ 4 สีและแต่ละสี มาในราคาที่ไม่เท่ากัน เริ่มจากสีแรกสุด

Color : Graphite Price : 44,900 baht เป็นตัวที่เบสิคที่สุด ราคาถูกที่สุด

Color : Graphite Price : 44,900 baht เป็นตัวที่เบสิคที่สุด ราคาถูกที่สุด ส่วนขยับขึ้นมาอีกนิด Color : Carbon Price : 47,700 baht จะเป็นสีออกเทาเข้ม Herman Miller ไทย  จะตกลงมาจาก Graphite นิดเดียวแต่ราคาจะแพงขึ้น 2,000 กว่าบาทส่วนตัวชอบตัวนี้ เพราะตัวเฟรมของรุ่นนี้ จะมีความเมทาลิค

ดูสวยดีดูมีมิติดี แต่ว่าราคาก็แพงขึ้น Color : Mineral Prince : 63,900 baht เป็นรุ่นที่แพงที่สุด ราคาเพิ่มมาจากรุ่นอื่น หมื่นกว่าบาทเลย ลองถามมาเหมือนกัน ว่าทำไมราคา Herman Miller Chair  ถึงแพงขึ้นเยอะขนาดนี้ ได้คำตอบมาว่า มันเป็นสีพิเศษ ก็ตามนั้นนะ และยังมีอีกหนึ่งรุ่นคือ

Color : Onyx Price : 48,888 baht จะเป็นสีดำเข้มเลย ในเมืองนอกมีขาย มาสักพักแล้ว แต่เมืองไทยกำลัง จะเอาเข้ามา ราคาจะแพงกว่าคาร์บอนนิดนึง ตัวนี้จะทำจาก วัสดุรีไซเคิล เป็นพลาสติกที่ นำไปทิ้งในทะเล และ Canon ทั้ง 4 สี

Color : Onyx Price : 48,888 baht จะเป็นสีดำเข้มเลย ในเมืองนอกมีขาย

เราสามารถ Custom ขาได้จะมี Option ให้เลือกเป็นขาโลหะ เป็นวัสดุที่เป็น police อลูมิเนียม เหงาๆดูหรูหราขึ้นมาอีก step ต่อมาจะเป็น Embody  ้herman miller  เก้าอี้ตัวนี้ดีไซน์ ทางไกลกับแอรอนมาก เก้าอี้ตัวนี้เกิดห่างจากแอรอนประมาณ 10 กว่าปีช่วงปี 2008

ดีไซน์จะดูฟิวเจอร์ district สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ ของมันเลยคือ ด้านหลังของเก้าอี้ ที่ตรงกลางจะเหมือน กับมีแกนกลาง ที่เป็นเหมือนกับ กระดูกสันหลัง และมีตัว back support เป็นซี่เหมือนกับกระดูกซี่โครง  herman miller อ่านว่า มันเป็นเอกลักษณ์ ที่ทำให้เก้าอี้ตัวนี้ มันคือ Embody

มองแว๊บเดียวคือรู้เลย ว่ามันคือEmbody รูปทรงตรงพนักด้านหลัง จะมีความ slim slim หน่อยถ้าเทียบกับแอรอน ที่จะมีความขยายกว้างๆ และก็ตัวพนักแขน  Herman miller ergonomic Chair  มีความโค้งมา รับกลับช่วงเอวที่คอด ซึ่งดีไซน์นี้ เป็นดีไซน์ที่ love it all hate it ชอบก็ชอบไม่ชอบก็ไม่ชอบ

ส่วนตัวเลยถ้าเอาเรื่องความสวยงามอย่างเดียว hyaline ชนะนิดนึง ตัวเอ็มบอดี้ ถ้าข้างหลังลายมัน น้อยกว่านี้สักนิด มันน่าจะดูดีขึ้น แต่มันก็คือ สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์  เฟอร์นิเจอร์  ที่ทำให้รุ่นนี้ มันคือรุ่นนี้ และหลายๆคนก็ชอบมัน เพราะมันเป็นแบบนี้ และรุ่นนี้มีข้อดีอีกอย่างหนึ่ง

รีวิว Herman Miller Color : Dark Mineral Prince : 61,700 baht เฟรมตัวนี้เป็นสีขาว ขาเป็นขาไทเทเนียม 

คือมีสีให้เลือกเยอะมาก ตัวเฟรมจะมีให้เลือก ทั้งสีขาวและสีดำ และบอกก็มีให้เลือก หลากหลายสีเลย แต่ตัวที่เลือกมานี้ Color : Dark Mineral Prince : 61,700 baht เฟรมตัวนี้เป็นสีขาว ขาเป็นขาไทเทเนียม แต่สิ่งหนึ่งที่ ไม่เข้าใจเลยคือ omelette เขามีให้เลือกแค่สีดำ

ทำไมถึงมี ให้เลือกแค่สีดำ คือน่าจะมี option ที่เป็นสีอ่อน ให้ได้เลือกบ้าง มันน่าจะทำให้ดูดีกว่านี้ แต่ช่างมันเถอะ และก็ราคาของตัวนี้ จะอยู่ที่ 59,000 บาทเริ่มต้นไปจนถึงประมาณ 60,000 กว่าๆแล้วแต่ออฟชั่น จะมีอยู่อันนึงที่เป็น option พิเศษที่หลายๆ

คนไม่ค่อยรู้ herman miller ลดราคา  คือ Em body สามารถเปลี่ยนล้อได้ ล้อตัวที่ให้มา เป็นล้อสีดำเป็นล้อ standard จะมีล้อใสเรียกว่าทรานสลูเซน ซึ่งจะเป็น option เพิ่มมาราคาประมาณ 6,000 บาท ถามว่าล้อใหม่ ทำอะไรได้ดีขึ้น ก็จะเป็นล้อที่สามารถ ใช้งานบนพื้นที่เป็นพรม

ที่เป็นเส้นขนยาวๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะจะไม่พันกับ ตัวขนของพรมนั่นเอง แต่ก็เป็น option 6,000 บาท เราปล่อยมันไปเถอะ ส่วนเรื่องต่อมา เป็นเรื่องฟีเจอร์การนั่ง สบาย ของเก้าอี้ทั้ง 2 ตัวนี้ ซึ่งจะขอแตกออกเป็น ทีละหัวข้อละกัน และจะค่อยๆเปรียบเทียบ เริ่มจากที่นั่งของมันก่อน

เป็นใยสังเคราะห์ ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษ เรียกว่า Pinnacle

เบาะของตัวแอร่อน จะเป็นวัสดุ ที่เป็นใยสังเคราะห์ ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษ เรียกว่า Pinnacle ฟิลลิ่งถ้าเกิด เรามาสัมผัส ความจริงมันก็จะคล้ายๆ กับพลาสติกนี่แหละ แต่มันจะมีความยืดหยุ่นกว่า มันจะให้ตัวได้มากกว่า ข้อดีหลักๆของมันเลย คือมันระบาย อากาศได้ดีมาก

เพราะมันจะมีรูพรุน อากาศจะไหลผ่านได้ดี ในขณะที่ถ้าเกิดเป็นเอ็มบอดี้ มันจะเป็นเบาะผ้า มันจะมีความนุ่มกว่า เพราะมันมีการ รองหลายเลเยอร์ และผิวสัมผัสของมัน จะมีความละเอียดกว่า เหมือนกับเรานั่งบน เก้าอี้ผ้าปกติ ซึ่งถ้าเกิดเป็น เรื่องของผิวสัมผัส

ความนุ่มความสบาย รู้สึกว่าให้เอ็มบอดี้ชนะนิดนึง ในขณะที่ถ้าเป็นเรื่อง การระบายอากาศ ยังไงก็คงต้องยกให้แอร่อน ต่อมาจะเป็นเรื่องของ back support การซัพพอร์ตหลัง อย่างแอรอนมองว่ามันเป็นเก้าอี้แบบ universal กว่าใครมานั่งก็สบาย

เข้าได้กับแผ่นหลัง เกือบจะทุกคน และด้านหลังจะมีตัว postger fice จะเป็นตัวที่ช่วยดัน หลังล่างของเรา ให้เราไม่เมื่อย สามารถปรับความหนืดได้ นิดๆหน่อยๆ

ติดตาม รีวิว Herman Miller  เพิ่มเติมได้ที่ : @UFA-X10

Miss M